แกร็บ เปิดตัวนวัตกรรม AI ล่าสุด ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้และพาร์ทเนอร์

แกร็บ ประเทศไทย ประกาศความมุ่งมั่นสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI-led Organization) พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดที่ใช้เทคโนโลยี AI, IoT และโซลูชันบนแอปพลิเคชัน เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้บริการและพาร์ทเนอร์ในระบบนิเวศทางธุรกิจ

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แกร็บยึดมั่นในพันธกิจ GrabForGood หรือ ‘แกร็บ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ โดยมุ่งพัฒนาและนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในภูมิภาค แนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีของแกร็บเริ่มต้นจากการศึกษาพฤติกรรมการใช้ชีวิตและทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงคนในระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดผลในวงกว้าง

ล่าสุด แกร็บได้เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค ได้แก่ ฟีเจอร์บัญชีครอบครัว (Family Account) ที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถเรียกรถ ติดตามการเดินทาง และชำระค่าบริการให้กับสมาชิกในครอบครัวได้อย่างสะดวกสบาย ฟูดล็อกเกอร์ (Food Lockers) ตู้ฝากอาหารเดลิเวอรีที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานออฟฟิศ และ แผนที่ในอาคาร (Indoor Map) ที่ช่วยให้คนขับประหยัดเวลาในการค้นหาร้านอาหารภายในห้างหรืออาคาร

นอกจากนี้ แกร็บยังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การเสริมประสิทธิภาพการทำงาน (Efficiency) การเพิ่มศักยภาพและผลิตผล (Productivity) การยกระดับประสบการณ์การใช้งาน (Experience) และการสร้างผลกระทบเชิงบวกทางสังคม (Impact) โดยใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning (ML) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานทั้งระบบ

สำหรับคนขับและไรเดอร์ แกร็บได้พัฒนาระบบจัดสรรคำสั่งซื้อแบบทันเวลาพอดี (Just-in-Time Allocation) ที่ใช้ ML ประเมินเวลาการเตรียมอาหารของร้านค้าก่อนจะส่งงานให้คนขับ เพื่อลดระยะเวลาการรอรับอาหารให้สั้นที่สุด นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบนำทางอัจฉริยะที่คำนึงถึงสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คนขับเลือกเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด

ในส่วนของผู้ประกอบการร้านค้า-ร้านอาหาร แกร็บ ใช้ AI เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เช่น การสร้างภาพอาหารด้วย AI ที่ช่วยให้ร้านอาหารสามารถนำเสนอเมนูได้อย่างน่าสนใจ แม้จะไม่มีทักษะการถ่ายภาพมืออาชีพ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาบริการสินเชื่อดิจิทัลที่ใช้ ML ในการประเมินความเสี่ยงและอนุมัติวงเงินที่เหมาะสม ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น

ด้านความปลอดภัย แกร็บได้พัฒนาระบบยืนยันตัวตนของคนขับด้วยการสแกนใบหน้า (Biometric Authentication) และระบบบันทึกเสียงระหว่างการเดินทาง (AudioProtect) ที่ช่วยป้องกันเหตุร้ายและใช้เป็นหลักฐานหากเกิดความขัดแย้งระหว่างผู้โดยสารและคนขับ

นอกจากนี้ แกร็บยังได้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อรับมือกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การพัฒนาฟีเจอร์ไม่รับช้อนส้อมพลาสติก (Plastic Cutlery Opt-Out) และฟีเจอร์ชดเชยคาร์บอน (Carbon Offset) ที่ผู้ใช้บริการสามารถร่วมบริจาคเพื่อนำเงินไปซื้อคาร์บอนเครดิตและปลูกต้นไม้

สำหรับพนักงานภายในองค์กร แกร็บส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี AI ในการทำงาน ผ่านโปรแกรมพัฒนาและฝึกอบรม รวมถึงพัฒนาเครื่องมือภายในองค์กร เช่น GrabGPT ที่นำเทคโนโลยี Large Language Models (LLMs) มาช่วยในการผลิตเนื้อหาและภาพประกอบ และ Mystique เครื่องมือที่ช่วยในการเขียนคำโฆษณา ซึ่งช่วยย่นเวลาการทำงานของฝ่ายการตลาดและครีเอทีฟ

นายวรฉัตรกล่าวทิ้งท้ายว่า “สำหรับแกร็บ เราไม่ได้มุ่งเน้นการใช้หรือพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องล้ำสมัยที่สุด แต่เราให้ความสำคัญกับเป้าหมายของคนในอีโคซิสเต็มและอรรถประโยชน์ของเทคโนโลยี คือ ต้องตอบโจทย์และแก้ปัญหาของคนในอีโคซิสเต็มได้จริงๆ สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม”

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล กันพลา และจักรยาน